Thursday, January 3, 2013

Travels: เที่ยวสบายๆ ที่สวนผึ้ง @ ราชบุรี

สวัสดีทุกคนนะครับ Reviews: เที่ยวสบายๆ ที่สวนผึ้ง @ ราชบุรี หัวข้อนี้ ถือได้ว่าเป็นการเขียนบล๊อคแรกอย่างเป็นทางการสักทีนะครับ  ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงปิดเทอมเลยได้มีโอกาสจัดทริปเล็กๆกันเองไปเช้า-เย็นกลับเมื่อวันที่18ธันวาคม2555ที่ผ่านมา เที่ยวกับเพื่อนๆที่มหาลัยกันอีก3คนนะครับ โดยในทริปนี้ได้ลงความเห็นว่าจะเป็นสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี


"สาวกะเหรื่ยงเคียงถิ่นตะนาวศรี ลำภาชี แก่งส้มแมวแนวหินผา 
ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรึงติดตา น้ำผึ้งป่า หวานซึ้ง ตรึงใจ" 
คำขวัญของอำเภอ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

เรามาทำความรู้จักกับสวนผึ้งกันก่อน สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพ เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น  อำเภอสวนผึ้งเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนใกล้ชายแดนพม่า มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้น และเต็มไปด้วยป่าสูงชัน มีอากาศที่บริสุทธิ์และเย็นสบาย เดิมทีมีชาวกระเหรี่ยงอาศัยอยู่มาแต่ดั้งเดิม ทำอาชีพล่าสัตว์ หารังผึ้ง ตามต้น ชวนผึ้ง หรือ ยวนผึ้ง ที่มีรังผึ้งขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ "สวนผึ้ง" นั่นเอง


การเดินทางมาสวนผึ้งขอแนะนำว่าให้มาโดยรถสวนตัว เพราะส่วนใหญ่ที่เที่ยวนั้นจะอยู่ใกล้ๆกัน จะสะดวกมากในการใช้รถส่วนตัว โดยขับจากกรุงเทพให้ใช้เส้นเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่นครปฐม ข้ามแม่น้ำแม่กลอง เข้าจังหวัดราชบุรี เลี้ยวขวาเข้าสวนผึ้ง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ระยะทาง 160 กิโลเมตร


เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า โดยเลือกสถานที่เที่ยวที่อยู่ในที่สุดก่อนแล้วค่อยทยอยแวะเที่ยวตามทางออกมา โดยที่แรกที่แวะกันคือ ร้านกาแฟต้นขนมหวานสะพานกาแฟ บรรยากาศของร้านดรมากและมีมุมถ่ายรูปน่ารักสวยๆมาก และทีสำคัญกาแฟร้านนี้อร่อยมากและราคาไม่สูงจนเกินไป 




บรรยากาศรอบๆร้าน

ต่อมาก็ผ่านธารน้ำร้อนบ่อคลึง วันที่เราไปเงียบมาก ยังไม่มีคนมาเที่ยวเลย เลยผ่านไปไม่ได้แวะ เลยมาแวะที่สถานที่ไฮไลท์ของสวนผึ้งเลยก็คือ The Scenery Vintage Farm ขอบอกว่าวิวสวยมากๆๆๆ ที่นี่จะเก็บเงินค่าเข้าด้วย40บาท (นำใบเข้าไปแลกรับอาหารหญ้าเลี้ยงแกะ1กำ) โดยด้านในมีกิจกรรมให้เล่น ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ต่างๆ , ยิงธนู (ต้องจ่ายเพิ่ม)

ป้าย Scenery Vintage Farm

วิวPanoramaบริเวณฟาร์ม

น้องแกะดำ

ให้อาหารแกะ



บรรยากาศโดยรอบ

ตุ๊กตาน้องแกะ

พอออกจากThe Scenery Vintage Farm เวลาประมาณเที่ยงพอดี ก้อได้เวลาหาร้านอาหารรองท้อง โดยมากินกันที่ร้าน ละเมอ สวนผึ้ง ดูจากบรรยากาศของร้านท่าทางจะพึ่งเปิดใหม่ ดูยังตกแต่งร้านยังไม่เรียบร้อย ส่วนเรื่องอาหารก็โอเคใช้ได้ ราคาไม่สูงมาก พี่ผู้หญิงเจ้าของร้านมีอัธยาศัยดี กินกัน4คน ค่าเสียหายประมาณ500บาท (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมา เนื่องจากลืม 555+)

ผ่าน Swiss Valley แอบถ่ายวิวจากด้านนอก


เติมพลังเสร็จ ก็ไปต่อที่ สวนผึ้ง รีสอร์ท ที่นี่ก็สวยเหมาะแก่การถ่ายรูปเหมือนเดิม บรรยากาศรอบๆ รายล้อมไปด้วยการ์ตูนต่างๆมาทำเป็นที่พัก ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง สวนผึ้ง รีสอร์ทจะเก็บค่าเข้าชมเช่นกันโดยคนละ40บาท ช่วงที่เราไปรู้สึกเหมือนสร้างเฟสใหม่เป็นสวนสนุกขนาดย่อมๆใกล้จะเสร็จแล้วด้วย อาจจะเปิดเร็วๆนี้
ป้าย สวนผึ้ง รีสอร์ท

ห้องน้ำเก๋มากๆ




บรรยากาศโดยรอบ

และต่อมาก็มาที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้ก็คือ บ้านหอมเทียน โดยที่นี่นั้นมีร้านอาหารและมีขายเทียนหอมที่มีลายต่างๆให้เลือกมากมาย โดยที่นี่ค่าเข้าชมคนละ40บาท (นำบัตรเข้าไปแลกเทียนฟรี1ชิ้น) ในบ้านหอมเทียนยังมีกิจกรรมให้ทำเทียนด้วยฝีมือตัวเอง (จ่ายเพิ่มเติม) และมีที่ถ่ายรูป ซึ่งมีการทำเทียนออกมาเป็นรูปต่างๆให้เราได้เลือกถ่ายมากมาย

ป้าย บ้านหอมเทียน

บัตรเข้าชม

นำบัตรไปแลกเทียนได้แบบนี้1ชิ้น



เที่ยนรูปต่างๆ ให้ถ่ายรูป



บรรยากาศโดยรอบ

สรุป: ทริปนี้ใช้เวลาเที่ยว1วันไปกลับจากกรุงเทพโดยใช้เวลารวมเดินทางรวมเที่ยวแล้วตั้งแต่07.00-17.00 เราไปกันวันธรรมดาคนน้อยมาก ได้เที่ยวแบบสบายๆ ชิวๆ ไปกันทั้งหมด4คน เฉลี่ยรวมค่ารถค่าเที่ยวทั้งหมด คนละประมาณไม่ถึง500บาท

สถานที่ไปเที่ยวทั้งหมด5ที่ คือ
1. ร้านกาแฟ ต้นขนมหวาน สะพานกาแฟ
2. The Scenery Vintage Farm
3. ร้านอาหาร ละเมอ สวนผึ้ง
4. สวนผึ้ง รีสอร์ท
5. บ้านหอมเทียน

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบล๊อคแรกอย่างเป็นทางการของผมนะครับ ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วย จะพยายามปรับให้ดีขึ้นในบล๊อคต่อๆไปนะครับ :)